"โซลาริน" ให้กล้องถ่ายภาพขนาด 23.8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโตโฟกัสด้วยแสงเลเซอร์ และแฟลช 4 ระดับ บวกกับแฟลชสำหรับกล้องหน้า หน้าจอเป็นจอแอลอีดี ไอพีเอสขนาด 5.5 นิ้วความละเอียดระดับ 2เค แต่ให้ช่วงของสีสันในระดับซุปเปอร์อาร์จีบี 120 เปอร์เซ็นต์ของปกติทั่วไป
ระบบเสียงเชื่อมต่ออยู่กับ "สมาร์ทแอมพลิฟายเออร์" เพื่อขยายความดัง แต่ทำหน้าที่ควบคุมอาการเพี้ยนของเสียงไปด้วยในตัว ใช้ลำโพงเพื่อขยายเสียงเบสส์โดยเฉพาะ 3 ตัว เมื่อเปิดโวลลุ่มสุดจะได้ระดับเสียงดังถึง 90 เดซิเบล ตัวเครื่องทำจากไทเทเนียม ปิดด้วยหนังสีดำมีลายในตัว
ทั้งหมดออกแบบโดย คาริม ราชิด นักออกแบบอุตสาหกรรมมีชื่อระดับโลกที่ทำงานหลายชิ้นให้กับ จอร์จิโอ อาร์มานี อเลสซีและ ชิโคต์ เป็นต้น
แต่ที่แตกต่างออกไปจากที่มีอยู่ในโทรศัพท์ทุกเครื่องอย่างแท้จริงตามคำบอกของ โมเช่ โฮเก็กประธานและผู้ร่วมก่อตั้งสิรินแล็บส์ คือ ระบบรักษาความปลอดภัยและรักษาความเป็นส่วนตัวของ "โซลาริน"
เมื่อผู้ใช้เปิดสวิตช์ "ซีเคียวริตี" สมาร์ทโฟนทั้งเครื่องจะเข้าสู่โหมด "ชีลด์" กล่าวคือการเข้าสู่ภาวะที่ทั้งการโทรศัพท์เข้า-ออก และการติดต่อสื่อสารด้วยข้อความทุกอย่างต้องผ่านการเข้ารหัส
สิรินแล็บส์ เลือกเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยระดับสูง 2 ระบบเข้ามาติดตั้งให้กับ "โซลาริน" อย่างแรกคือ "ซิมเพอเรียม" ที่ถือว่าเป็นระบบเพื่อป้องกันภัยคุกคามสำหรับสมาร์ทโฟนระดับ "เลิศ" กับอีกระบบคือ "คูลสแปน" เทคโนโลยีการเข้ารหัส เออีเอส แบบจากชิป-ทู-ชิป 256 บิท ซึ่งเป็นระบบการเข้ารหัสระดับที่ใช้กันอยู่ในกิจการทหารเท่านั้น
รายละเอียดเกี่ยวกับทั้ง 2 ระบบนี้ไม่มีแจกแจงมากมายกว่านั้น เพียงแค่อ้างเอาไว้ว่าทำให้ "โซลาริน" กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ "มั่นคง" และ "ปลอดภัย" มากที่สุดเท่าที่มีอยู่ตามไปด้วย
กระนั้น ซุค อัฟราฮัม ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง ซิมเพอเรียม ก็ยอมรับว่า ไม่สามารถการันตีได้ว่า โซลาริน จะไม่โดนเจาะระบบ ฉกข้อมูลชนิด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยที่สุดโดนเมื่อใด ผู้เป็นเจ้าของและบริษัทจะรู้และติดตามร่องรอยกลับไปได้ ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องรู้ราวใด ๆ ว่าโดนแฮกเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งหมดนั่นคือปัจจัยประกอบที่ทำให้โซลาริน มีราคาเริ่มต้นที่ราว 17,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 600,000 บาทต่อเครื่องสำหรับรุ่นเริ่มต้น ยังไม่รวมภาษีด้วยซ้ำไป คุ้มค่าหรือไม่ก็คิดดู
ที่มา มติชน