เปิดสเปก iPhone Air ที่โดนตัดทิ้งเพียบ!

iPhone Air ดีไซน์บางเฉียบ แต่ต้องแลกมาด้วย 9 สิ่งที่ถูกตัดออก!

แฟนๆ Apple ที่เห็นดีไซน์ของ iPhone Air ที่บางเฉียบเพียง 5.64 มม. อาจจะรู้สึกว้าวและอยากได้ขึ้นมาทันที แต่ก่อนจะตัดสินใจควักเงินในกระเป๋า ต้องทำใจยอมรับก่อนว่าการที่เครื่องจะบางขนาดนี้ มันต้องแลกมากับอะไรหลายๆ อย่างที่ถูกตัดทอนออกไป ซึ่งบางอย่างก็สำคัญจนน่าตกใจเลยทีเดียว

1. แบตเตอรี่
นี่คือปัญหาใหญ่ที่สุด! iPhone Air มีความจุแบตแค่ 3,149mAh ซึ่งน้อยกว่า iPhone 17 (3,692mAh) และ iPhone 17 Pro Max (4,832mAh) มากๆ ส่งผลให้แบตหมดเร็วกว่า โดยตามผลการทดสอบจาก EU iPhone Air ใช้งานได้ 40 ชั่วโมง ส่วนรุ่นธรรมดาใช้ได้ 41 ชั่วโมง และรุ่น Pro Max ใช้ได้ 53 ชั่วโมง

ที่แย่ไปกว่านั้นคือ การชาร์จก็ช้าลงไปด้วย! ในขณะที่ iPhone 17 และ 17 Pro Max ชาร์จได้ 50% ใน 20 นาที แต่ iPhone Air ต้องใช้เวลาถึง 30 นาที!

2. ขนาดหน้าจอ
หน้าจอของ iPhone Air มีขนาด 6.5 นิ้ว ซึ่งเล็กกว่า iPhone 16 Plus (6.7 นิ้ว) และ iPhone 16 และ 17 Pro Max (6.9 นิ้ว) เหตุผลอาจเป็นเพราะ Apple ใช้กรอบไทเทเนียมซึ่งแข็งแรงกว่าอะลูมิเนียม แต่ถ้าทำหน้าจอใหญ่กว่านี้ อาจจะทำให้เครื่องงอได้ง่ายเกินไป

3. กล้องหลัก
นี่คือจุดที่น่าผิดหวังมากๆ เพราะ iPhone Air มีกล้องหลังแค่ตัวเดียว! แถมยังใช้เซนเซอร์ขนาด 1/1.56" ที่เล็กกว่ารุ่น Pro (1/1.28") และยังไม่รองรับการถ่ายวิดีโอ ProRes และ ProRes RAW ที่ 4K 120fps เหมือนรุ่น Pro อีกด้วย

แถมยังมีอีกอย่างที่หายไปคือ LiDAR ที่ช่วยเรื่องการโฟกัสภาพและโหมด Portrait ให้แม่นยำขึ้นก็ถูกตัดออกไปเช่นกัน

4. กล้อง Telephoto
iPhone Air ไม่ได้มาพร้อมกล้อง Telephoto ทำให้การซูมแบบ Optical ทำได้แค่ 2x เท่านั้น หลังจากนั้นคุณภาพก็จะเริ่มแย่ลงทันที

5. กล้อง Ultra-wide
กล้องมุมกว้างสุดฮิตก็ถูกตัดออกไป ทำให้ iPhone Air ไม่สามารถถ่ายภาพมุมกว้าง หรือถ่ายภาพแบบมาโครเหมือนรุ่นอื่นได้

6. ชิปเซ็ต "Pro" ที่ไม่ Pro จริง?
Apple บอกว่า iPhone Air ใช้ชิป A19 Pro เหมือนกับรุ่น Pro แต่เมื่อดูจากสเปกแล้วก็ยังไม่ชัดเจนว่ามีความแตกต่างจากชิป A19 ที่อยู่ใน iPhone 17 อย่างไร คงต้องรอผลการทดสอบกันอีกที

7. พอร์ต USB 3.0
แม้จะมีพอร์ต USB-C แต่ความเร็วกลับถูกจำกัดไว้ที่ USB 2.0 ในขณะที่รุ่น Pro รองรับ USB 3.0 ที่สามารถถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ได้เร็วกว่า ทำให้การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ภายนอกอย่าง SSD ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

8. ลำโพง Stereo
iPhone Air มีลำโพงแค่ตัวเดียว! ทำให้ประสบการณ์การฟังเพลงหรือดูหนังไม่เต็มอิ่มเท่ากับรุ่นอื่นๆ ที่มาพร้อมลำโพงคู่แบบสเตอริโอ

9. เคสกันกระแทกกลับมาแล้ว!
เพื่อความบางเฉียบของตัวเครื่อง Apple จึงต้องออกเคสกันกระแทกที่ทำจากโพลีคาร์บอเนตมาขายโดยเฉพาะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Apple เองก็ยังกังวลเรื่องความทนทานของเครื่องที่บางขนาดนี้

แม้ว่า iPhone Air จะมีดีไซน์ที่สวยงามและบางเฉียบ แต่การถูกตัดสเปกออกไปหลายอย่างเพื่อแลกกับความบาง อาจทำให้หลายคนต้องกลับมาคิดทบทวนอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ แล้วคุณล่ะ...คิดว่า iPhone Air สละความสามารถไปมากเกินไปหรือเปล่า?