
ย้อนรอยตำนาน iPhone จากมือถือพลาสติกสู่เจ้าแห่งสมาร์ตโฟน

เคยสงสัยป่ะว่าทำไม iPhone มันถึงหน้าตาแบบนี้? ทางเราจะพาย้อนเวลากลับไปดูตั้งแต่รุ่นแรกยัน iPhone X เลยเว้ย คือจะบอกว่า Apple ไม่ได้ออกแบบให้ "สวย" อย่างเดียวนะ แต่เขาเน้น "ใช้งานได้จริง" (Function over Form) อะ มาดูกันทีละยุคเลย!
1. จุดเริ่มต้นตำนาน (Original iPhone - 2007)
เปิดมาปี 2007 ตอนนั้นมือถือรุ่นอื่นคือปุ่มเยอะมากแม่! จิ้มยากเวอร์ แต่ Steve Jobs บอก "พอ!" นางจะทำมือถือที่ฉลาดที่สุดและใช้ง่ายที่สุด
The Game Changer: สิ่งที่เปลี่ยนโลกคือ Multi-touch จ้า ลากนิ้ว จิ้มจอ ไม่ต้องใช้ปากกาสไตลัส ไม่ต้องมีปุ่มคีย์บอร์ดรกๆ คือหน้าจอ 3.5 นิ้วสมัยนั้นคือใหญ่สะใจมาก
ปุ่ม Home: มีปุ่มเดียวจบ กดปุ๊บกลับบ้านปั๊บ เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
ดีไซน์: ด้านหลังเป็นอลูมิเนียมตัดกับพลาสติกสีดำด้านล่าง หลายคนบอกไม่สวย แต่จริงๆ คือเขาทำไว้ให้รับสัญญาณโทรศัพท์ได้ (เพราะอลูมิเนียมมันกันคลื่นไงแก)
2. ยุคพลาสติกครองเมือง (iPhone 3G - 2008)พอรุ่น 3G มา Apple เปลี่ยนหลังเครื่องเป็น "พลาสติกล้วน" เลยจ้า
เหตุผล: ไม่ใช่ลดต้นทุนนะ แต่เพื่อให้รับสัญญาณ 3G ได้แรงขึ้น เพราะรุ่นแรกรับสัญญาณยาก กินแบต รุ่นนี้เลยต้องจูนใหม่ให้ประหยัดแบตและเน็ตแรง
3. กระจกและสแตนเลสสุดพรีเมียม (iPhone 4 - 2010)อันนี้คือพีค! เปลี่ยนจากพลาสติกมาเป็น "กระจกประกบหน้าหลัง" + ขอบสแตนเลส
ความสวย: ดูแพงขึ้น 300% แข็งแรงกว่าพลาสติก (แต่ตกแล้วแตกนะ จบข่าว)
ขอบเครื่อง: ไอที่เห็นเป็นเส้นขีดๆ ตรงขอบสแตนเลสอะ มันคือเสาอากาศนะแก Apple เอาเสาอากาศมาเป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์เลย ล้ำป่ะล่ะ?
4. กลับมาหล่อเท่ด้วยอลูมิเนียม (iPhone 5 - 2012)รุ่นนี้หลายคนยกให้เป็น The Best Design เลยนะ
บาง เบา ยาวขึ้น: หน้าจอขยายเป็น 4 นิ้ว สัดส่วนเปลี่ยนไป บอดี้เป็นอลูมิเนียมแบบ Unibody ตัดขอบเหลี่ยมๆ คมๆ คือสวยจึ้งมาก แถมเบากว่ารุ่น 4 เยอะ เพราะไม่ต้องแบกกระจกด้านหลังแล้ว
5. ยุคจอใหญ่และกล้องปูด (iPhone 6 & 6 Plus - 2014)ตลาดเริ่มต้องการมือถือจอใหญ่ Apple เลยจัดให้! 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว
ดีไซน์: กลับมาโค้งมนอีกครั้ง (แต่ลื่นมือมาก ทำตกกันระนาว)
จุดสังเกต: มีเส้นเสาอากาศพาดหลังเครื่องชัดเจน (ขัดตาเบาๆ) และที่สำคัญ "กล้องนูน" เริ่มมาแล้วจ้าาา วางบนโต๊ะแล้วกระดกงึกๆ งักๆ แต่ต้องยอมแลกเพื่อให้กล้องเทพขึ้น
6. ความเปลี่ยนแปลงที่เจ็บปวด (iPhone 7 - 2016)หน้าตาคล้ายเดิม แต่สิ่งที่หายไปคือ "รูหูฟัง 3.5mm"
ดราม่า: คนด่าเพียบ แต่ Apple บอกว่าต้องเอาออกเพื่อใส่ Haptic Engine (ระบบสั่น) และแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น (แต่บางคนก็เมาท์ว่าแค่อยากขาย AirPods แหละ ดูออก)
ความเนียน: ซ่อนเส้นเสาอากาศไปไว้ขอบบนล่าง หลังเครื่องเลยดูคลีนขึ้น
7. การกลับมาของกระจกและอนาคตใหม่ (iPhone 8 & iPhone X - 2017)iPhone 8: กลับมาใช้หลังกระจกอีกรอบ เพื่อรองรับ Wireless Charging (ชาร์จไร้สายต้องผ่านกระจก อลูมิเนียมทำไม่ได้)
iPhone X (The Revolution): นี่คือการปฏิวัติรอบใหญ่อีกครั้ง!
จอเต็มขอบ: ตัดปุ่ม Home ทิ้งถาวร!
The Notch (ติ่งหน้าจอ): โดนล้อหนักมากว่าเกะกะ แต่จริงๆ น้องมีประโยชน์นะ! ในนั้นคือระบบ TrueDepth Camera เอาไว้สแกนหน้า (Face ID)
Face ID: เปลี่ยนวิธีใช้มือถือไปเลย แค่มองจอก็ปลดล็อก ไม่ต้องเอานิ้วไปแตะปุ่มอีกต่อไป มันคือความ Seamless ที่ Apple ต้องการมาตลอด
สรุปคือ Apple ไม่ได้แค่ทำมือถือให้ดูแพง แต่ทุกดีไซน์มีเหตุผลของมันเสมอ! ตั้งแต่การเลือกวัสดุ ยันการตัดปุ่มต่างๆ ออก เพื่อให้เราใช้งานได้ "ธรรมชาติ" ที่สุด









กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday