6 สมาร์ทโฟนรุ่นสุดคุ้ม ราคาไม่เกิน 10,000 บาท

Huawei GR5 ราคาวางจำหน่าย 7,990 บาท

Huawei GR5 สมาร์ทโฟนรุ่นสุดคุ้มมาพร้อมดีไซน์ระดับไฮเอนด์ด้วยตัวเครื่องที่ผลิตจากโลหะ พร้อมกับฟีเจอร์เด่นอย่างระบบสแกนลายนิ้วมือจังหวะเดียวแบบ 360 องศา ซึ่งสามารถสแกนได้แม้ขณะมือเปียกน้ำ สำหรับคุณสมบัติในเบื้องต้นมีดังนี้

- หน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p ขนาด 5.5 นิ้ว
- หน่วยประมวลผลใช้ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 616
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2GB
- หน่วยความจำภายใน 16GB
- กล้องด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และเซ็นเซอร์รับภาพแบบ CMOS
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนเครือข่าย 4G LTE
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop ซึ่งถูกครอบทับด้วย Emotion UI 3.1

Asus ZenFone Selfie (ZD551KL) 16GB ราคาวางจำหน่าย 7,990 บาท

Aus Zenfone Selfie สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมความโดดเด่นในด้านการถ่ายภาพเซลฟี่ (Selfie) ด้วยกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้าง 88 องศา และโหมดการถ่ายภาพแบบ Selfie Panorama ที่จะได้ภาพในมุมที่กว้างถึง 140 องศา เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายเซลฟี่โดยเฉพาะ ส่วนคุณสมบัติในเบื้องต้นของ Zenfone Selfie มีดังนี้

- หน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมกระจกป้องกันหน้าจอ Gorilla Glass 4
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 615 แบบ Octa-Core Processor (64-bit) ความเร็ว 1.5 GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED Dual-Tone
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED Dual-Tone และระบบโฟกัสภาพด้วย Laser Autofocus
- แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
- รองรับเครือข่าย 4G LTE
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop)

OPPO F1 ราคาวางจำหน่าย 8,990 บาท

OPPO F1 อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มีความโดดเด่นในด้านการถ่ายเซลฟี่ (Selfie) ด้วยกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับการดีไซน์ตัวเครื่องด้วยโลหะสุดพรีเมียม ซึ่งมีความบางเพียง 7.25 มิลลิเมตรเท่านั้น และมาพร้อมคุณสมบัติที่น่าสนใจมีดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 143.5x71x7.25 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 134 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD 720p (720x1280 พิกเซล : 294 ppi) และครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 4
- หน่วยประมวลผลใช้ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 616 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.7 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 405
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 128 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED, ระบบโฟกัสแบบ Phase Detection Auto Focus (PDAF) และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์ขนาด 1/4 นิ้ว และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
- แบตเตอรี่ขนาด 2500 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop
- รองรับการมช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด

vivo V3 ราคาวางจำหน่าย 8,990 บาท

vivo V3 สมาร์ทโฟนรุ่นต่อยอดที่ได้รับการดีไซน์ตัวเครื่องสุดหรูหรา โดยมีความบางเฉียบเพียง 7.5 มิลลิเมตร รวมถึงมีคุณสมบัติ และฟีเจอร์การทำงานที่น่าสนใจดังนี้

- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD 720p (720x1280 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 616 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 128 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ขนาด 2550 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.5 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)

 

ZTE BLADE S7 ราคาวางจำหน่าย 9,990 บาท

ZTE BLADE S7 สมาร์ทโฟนสีสันสดใสพร้อมความโดดเด่นในด้านการถ่ายภาพเซลฟี่ (selfie) บนตัวเครื่องกรอบโลหะสุดพรีเมียม และความบางเฉียบเพียง 7.2 มิลลิเมตรเท่านั้น รวมถึงฟีเจอร์สุดล้ำอย่างระบบสแกนม่านตา สำหรับคุณสมบัติที่น่าสนใจมีดังนี้

- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 615 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 64 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ขนาด 2550 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)

Samsung Galaxy J7 (2016)

Samsung Galaxy J7 (2016) สมาร์ทโฟนรุ่นอัปเกรดตัวท็อปประจำปี 2016 จากตระกูล Galaxy J มาพร้อมการดีไซน์กรอบตัวเครื่องโลหะสุดหรู และด้านหลังของตัวเครื่องมีลวดลายโลหะขัดลาย (Brushed Metal) รวมถึงมีคุณสมบัติ และฟีเจอร์การทำงานที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมดังนี้

- ตัวเครื่องมีขนาด 151.7x76x7.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 170 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1080x1920 พิกเซล)
- หน่วยประมวลผลใช้ชิปเซ็ตแบบ Octa-Core Processor ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 128 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ที่ด้านหน้า และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9
- แบตเตอรี่ขนาด 3300 mAh
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.1 และ NFC

สำหรับ Samsung Galaxy J7 (2016) วางจำหน่ายที่ประเทศอินเดียในราคา 15,900 รูปี หรือประมาณ 8,400 บาท ซึ่งมีแนวโน้มว่าเมื่อนำมาวางจำหน่ายในประเทศไทยจะมีราคาที่สูงขึ้น โดยคาดว่าจะมีราคาอยู่ประมาณ 9,000-11,000 บาท

สำหรับสมาร์ทโฟนที่ทางทีมงานคัดลือกมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นมีจุดเด่นในด้านที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ คมชัด, ชิปเซ็ตประมวลผลตัวแรง, มีหน่วยความจำภายในมาก และกล้องดิจิทัลความละเอียดสูง มีความคมชัด ซึ่งสมาร์ทโฟนในราคาไม่เกิน 10,000 บาทในปัจจุบันมีบางคุณสมบัติ และฟีเจอร์การทำงานระดับไฮเอนด์เทียบชั้นสมาร์ทโฟนที่มีราคา 15,000 บาทเลยทีเดียว เรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างครบถ้วน

 

 

ที่มา thaimobilecenter