เจอ 5 แอปเทพ F-Droid ดีกว่าของ Google แบบคนละโลก

5 แอป Open Source จาก F-Droid ที่เจ๋งกว่าตัวดังใน Play Store แบบตะโกน

ปกติเราคงชินกับการโหลดแอปผ่าน Play Store ใช่ป่ะ เหมือนโดนฝังหัวมาว่ามันคือที่สุดแล้ว แลกข้อมูลส่วนตัวกับความสะดวกสบาย แต่ถ้าลองก้าวออกมานิดนึงมาลองเล่น F-Droid บอกเลยว่าโลกเปลี่ยน

F-Droid คือแหล่งรวมแอปฟรีที่เป็น Open Source เน้นใช้งานจริง ไม่เน้นกำไร ไม่ใช่กล่องดำที่ตรวจสอบไม่ได้เหมือนแอปทั่วไปในตลาด แอปพวกนี้โปร่งใส ส่วนใหญ่ไม่มีโฆษณา และที่สำคัญคือเคารพความเป็นส่วนตัวเราสุดๆ ถึงบางตัวหน้าตาอาจจะดูดิบๆ ไปบ้าง แต่หลายตัวพัฒนาจนเทพ แซงหน้าแอปดังๆ ไปแล้ว มาดูกันว่ามีตัวไหนน่าโดนบ้าง

NewPipe (ตบ YouTube ร่วง)
สตรีมมิ่งแบบพรีเมียม แต่ฟรี! ไม่โดนส่อง

ถ้าดูวิดีโอบน Android ผ่านแอปปกติคือนรกแตก โฆษณาต้นคลิปมาเบิ้ล แทรกกลางคลิปอีก พอกดปิดหน้าจอก็หยุดเล่นถ้าไม่จ่ายเงิน NewPipe คือฮีโร่ขี่ม้าขาวมาแก้ปัญหานี้

นี่คือแอปดู YouTube ที่เน้นความเป็นส่วนตัว ดึงคอนเทนต์มาจากเว็บตรงๆ ไม่ต้องล็อกอิน Google ไม่ต้องทนดูโฆษณา คือได้ฟีเจอร์เหมือน YouTube Premium แบบฟรีๆ เล่นเบื้องหลังได้ (ฟังเดอะโกสท์เพลินๆ ตอนล็อกจอ) มีโหมด Picture-in-Picture ให้ด้วย แถมโหลดไฟล์เก็บลงเครื่องได้เลย

สรุปคือ มันคือ YouTube เวอร์ชันที่สงบสุขและเราเป็นคนคุมเกมเอง

OsmAnd~ (ท้าชน Google Maps)
แผนที่ละเอียดเว่อร์ ไม่ต้องง้อเน็ต

Google Maps จริงๆ มันเหมือนสมุดหน้าเหลืองที่คอยตามติดชีวิตเราเพื่อยิงโฆษณามากกว่า ข้อดีคือรถติดตรงไหนรู้หมด แต่พอต้องใช้ออฟไลน์คือพังง่ายมาก เซฟพื้นที่ได้นิดเดียว

ตัดภาพมาที่ OsmAnd~ (เวอร์ชัน F-Droid มีตัวหนอน ~ คือตัวปลดล็อกฟีเจอร์ Unlimited ฟรี) เจ้านี้ใช้ข้อมูลจาก OpenStreetMap โหลดแผนที่เก็บลงเครื่องทีเดียวจบ ทั้งประเทศ ทั้งภูมิภาค ข้อมูลความสูง เส้นชั้นความสูงมาครบ เหมาะมากสำหรับสายเดินป่า หรือไปที่สัญญาณบอดๆ

แรกๆ อาจจะงงๆ หน่อย แต่พอตั้งค่าเลเยอร์เป็นนะ จะรู้เลยว่าเมื่อก่อนเราพลาดดีเทลเจ๋งๆ ไปเยอะมาก

Aegis Authenticator (ดีกว่า Google Authenticator / Authy)
ล็อกกุญแจบ้านแน่นหนา แต่เรายังถือกุญแจเอง

ระบบยืนยันตัวตน 2 ชั้น (2FA) สำคัญมาก แต่แอปเจ้าตลาดชอบขังเราไว้ในระบบเขา ถ้าลืมรหัสเมล หรือแอปเลิกทำเวอร์ชันคอม (แบบ Authy) คือซวย

Aegis Authenticator มองว่ารหัสพวกนี้คือสมบัติของเรา มันเก็บข้อมูลแบบออฟไลน์ เข้ารหัสแน่นหนา หน้าตาทันสมัย สแกนนิ้วเข้าได้ แต่ทีเด็ดคือระบบสำรองข้อมูล เรา export ไฟล์ที่เข้ารหัสไปเก็บไว้ไหนก็ได้ จะลงคอม ใส่แฟลชไดรฟ์ หรือโยนขึ้น cloud ส่วนตัวก็แล้วแต่เรา

แบบนี้เรียกว่าไม่โดนผูกขาด ย้ายค่ายเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะข้อมูลดิบอยู่ในมือเรา ปลอดภัยกว่าเจ้าดังที่เพิ่งจะมี cloud sync แถมยังไม่เข้ารหัสแบบ end-to-end มาให้แต่แรกด้วยซ้ำ

K-9 Mail / Thunderbird for Android (ท้าดวล Gmail)
ยกอีเมลระดับโปรมาไว้บนมือถือ

เมื่อก่อนอีเมล Open Source บน Android มันดูสะเปะสะปะ มี K-9 Mail แบกอยู่เจ้าเดียว แต่ตอนนี้ K-9 แปลงร่างเป็น Thunderbird for Android เต็มตัว กลายเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ Gmail แล้ว

Gmail ชอบเอาอัลกอริทึมมาจัดระเบียบ inbox เรา แยกนู่นนี่จนงง แถมแลกมาด้วยการโดนส่องข้อมูล แต่ K-9 คือขั้วตรงข้าม เรียงตามเวลาเป๊ะๆ เราคุมเองหมด ฟีเจอร์เด็ดคือ Unified Inbox รวมทุกเมลจากทุกบัญชีมาไว้ที่เดียว แยกสีชัดเจน ไม่ต้องส่งรหัสผ่านเราไปผ่านเซิร์ฟเวอร์ใครก็ไม่รู้

ที่ชอบคือมันให้เราคุมได้หมดแต่ไม่งง มี Push mail ไวๆ เข้ารหัส OpenPGP ได้ เลือกได้ว่าจะซิงค์ข้อมูลแค่ไหน ถึงจะไม่มี AI ตอบเมลอัจฉริยะ แต่แลกมาด้วยความเร็ว ประหยัดแบต และสบายใจว่าไม่มีใครแอบอ่านเมลเรา

Heliboard (แทนที่ Gboard)
พิมพ์ฉลาดเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไม่โดนดักข้อมูล

คีย์บอร์ดคือสิ่งที่รู้อุกอย่าง รหัสผ่าน แชทลับ คำค้นหา ถ้าใช้ของเจ้าดังก็ต้องเชื่อใจเขามากๆ ว่าจะไม่ส่งข้อมูลกลับไปเซิร์ฟเวอร์ Heliboard เลยเป็นทางเลือกที่น่าสน มันคือร่างอวตารของ OpenBoard ที่ปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัย แต่ตัดเรื่องการสอดแนมทิ้งไป

Heliboard ทำงานออฟไลน์ 100% ไม่ขอสิทธิ์ออกเน็ตด้วยซ้ำ แปลว่ามันส่งข้อมูลเราไปไหนไม่ได้เลย แต่หน้าตาและการใช้งานคือฟีลเดียวกับ Gboard เป๊ะ มีธีม ปรับแถบเครื่องมือได้ รองรับหลายภาษา

ที่เจ๋งคือมันปรับแต่งได้เยอะแบบที่ Gboard ตัดทิ้งไปแล้ว เช่น ปรับความสูงแป้น ปรับเวลาการกดค้าง จัดการประวัติคลิปบอร์ดได้ละเอียด ใครชอบพิมพ์แบบลาก (Glide typing) ก็ทำได้ แค่ต้องไปโหลดไฟล์ภาษาเพิ่มเองนิดหน่อยในตั้งค่า

สรุปยึดอำนาจคืน ทีละแอป ข้อดีของ Android คือเราไม่จำเป็นต้องทนใช้ของที่เขาให้มา ในขณะที่บิ๊กเทคพยายามจะดึงเราเข้าไปในระบบเพื่อหาเงินจากข้อมูลเรา ชุมชน Open Source ก็ขยันสร้างเครื่องมือที่ทำงานเพื่อเราจริงๆ

ไม่ต้องถึงขั้นหักดิบเลิกใช้ Google ทันทีก็ได้ แค่ลองเปลี่ยน 5 แอปหลักๆ นี้ดู ก็ถือเป็นการเริ่มทวงคืนความเป็นเจ้าของมือถือตัวเองได้เยอะแล้ว ลองดูครับ!