เลิกตีกัน! ฮอลลีวูด x AI จบสงครามลิขสิทธิ์ด้วยเงิน 1 พันล้านเหรียญ

จบสงคราม! Disney จูบปาก OpenAI ทุ่ม 1 พันล้านเหรียญ ขนทัพ Marvel-Star Wars ลง Sora แบบถูกลิขสิทธิ์

ใครที่ตามข่าวเรื่องดราม่า AI กับเรื่องลิขสิทธิ์งานอาร์ตอยู่ บอกเลยว่าดีลนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้วงการสั่นสะเทือน ล่าสุด Disney ตัดสินใจเลิกตีกับ AI แล้วหันมาจับมือกันแทน ด้วยการประกาศลงทุนใน OpenAI (เจ้าของ ChatGPT) ไปเน้นๆ 1 พันล้านดอลลาร์!

ดีลนี้เราจะได้เห็นอะไรบ้าง? ไม่ใช่แค่เรื่องเงินนะ แต่ Disney ไฟเขียวให้ OpenAI เอาคาแรคเตอร์ดังๆ กว่า 200 ตัวจากทั้ง Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ไปใส่ใน Sora (AI สร้างวิดีโอตัวเทพ) ได้เลย นั่นหมายความว่าต่อไปเราอาจจะเจนคลิป Darth Vader หรือ Elsa ออกมาได้แบบไม่ผิดกฎหมายแล้ว เพราะเขาเคลียร์กันจบแล้ว

ทำไมถึงต้องจับมือกัน? Matthew Sag ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมองว่า นี่คือทางออกที่ฉลาดมาก แทนที่บริษัท AI จะต้องมานั่งปวดหัวคอยบล็อกไม่ให้คนเจนรูปตัวการ์ตูนลิขสิทธิ์ หรือต้องมานั่งลุ้นว่าจะโดนฟ้องเมื่อไหร่ สู้จ่ายเงินซื้อสิทธิ์ไปเลยดีกว่า วิน-วินทั้งคู่ Disney ได้เงินและหุ้น ส่วน OpenAI ได้คอนเทนต์ระดับโลกไปเทรน AI

แก้ปัญหา "Snoopy Problem" ที่ผ่านมาปัญหาน่าปวดหัวสุดของ AI คือ "Snoopy Problem" หรือการที่ AI มันฉลาดเกินจนจำหน้าตัวละครดังๆ ได้แม่น แล้วเผลอเจนรูปออกมาเหมือนเป๊ะจนเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งพอมีดีลนี้ปุ๊บ ปัญหานี้จบปั๊บสำหรับฝั่ง Disney เพราะถือว่าอนุญาตแล้ว

งานเข้า Midjourney? ในขณะที่ OpenAI ได้ดิบได้ดี ดีลนี้กลับกลายเป็นข่าวร้ายของ Midjourney ที่กำลังโดน Disney ฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์อยู่ เพราะการที่ OpenAI ยอมจ่ายเงินขอลิขสิทธิ์ถูกต้อง มันทำให้ OpenAI ดูเป็น "เด็กดี" ในสายตาโลกธุรกิจ และกดดันให้เจ้าอื่นต้องทำตาม

สรุปอนาคตของ AI คือการ "ผูกขาดข้อมูล" Matthew Sag ทิ้งท้ายไว้น่าสนใจว่า ตอนนี้ข้อมูลฟรีๆ บนเน็ตเริ่มหมดแล้ว (Low-hanging fruit) ใครอยากให้ AI เก่งกว่านี้ต้องมีข้อมูล Exclusive ที่คนอื่นไม่มี Google มี YouTube ส่วน OpenAI ตอนนี้มีอาณาจักร Disney อยู่ในมือ เรียกว่าสงครามแย่งข้อมูลเพิ่งจะเริ่มต้น และยุคที่ AI กับฮอลลีวูดตีกันคงจบลงแล้ว กลายเป็นการแบ่งเค้กกันกินแทน