Apple ปล่อยหมัดเด็ด! ใช้ AI ออกแบบชิปเอง


Apple ปล่อยหมัดเด็ด! ใช้ AI ออกแบบชิปเอง

Apple ปล่อยหมัดเด็ด! ใช้ AI ออกแบบชิปเอง ดันโครงการลับพัฒนาเซิร์ฟเวอร์ Baltra หนุนบริการ Apple Intelligence

Apple กำลังเดินหน้าเปลี่ยนเกมในโลกชิปเซ็ตอีกครั้ง เมื่อ Johny Srouji หัวหน้าฝ่ายฮาร์ดแวร์ของบริษัท ออกมาเปิดเผยว่า Apple ได้เริ่มนำ AI สายสร้างสรรค์ (Generative AI) เข้ามาช่วยในกระบวนการออกแบบชิป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ของชิปรุ่นใหม่

Srouji กล่าวบนเวทีในงานที่ประเทศเบลเยียม โดยได้รับรางวัลจาก Imec องค์กรวิจัยชิปชั้นนำระดับโลกว่า AI มีศักยภาพสูงในการช่วยให้งานออกแบบเร็วขึ้น และถือเป็น "ตัวช่วยเพิ่มผลิตภาพ" ที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนหน้าเร็วกว่าที่เคย

Apple เริ่มต้นการออกแบบชิปตั้งแต่ A4 ใน iPhone 4 เมื่อปี 2010 จนถึงวันนี้ที่ชิปของบริษัทได้ครอบคลุมทุกอุปกรณ์ ทั้ง iPad, Apple Watch, Mac และ Vision Pro ความท้าทายไม่ได้อยู่ที่แค่ฮาร์ดแวร์ แต่คือความซับซ้อนในการออกแบบที่ต้องผสานทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่างแน่นหนา ซึ่ง AI กำลังกลายเป็นตัวเร่งสำคัญที่ช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากเหล่านี้

ขณะเดียวกัน Apple ยังเดินหน้าโครงการลับที่เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2024 ร่วมมือกับ Broadcom ผู้ผลิตชิปชื่อดัง เพื่อพัฒนา ชิปเซิร์ฟเวอร์ AI ตัวแรกของบริษัท ในชื่อ Baltra ซึ่งจะถูกใช้ในระบบ Private Cloud Compute ของ Apple โดย Baltra จะเป็นหัวใจหลักของระบบหลังบ้านที่ช่วยจัดการกับภาระงาน AI ขนาดใหญ่ ที่เกินกำลังของชิปในอุปกรณ์ทั่วไป

Apple วางแนวทางให้บางฟีเจอร์ AI ทำงานบนอุปกรณ์ (on-device) เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างจะรันผ่านชิปเซิร์ฟเวอร์อย่าง Baltra บนคลาวด์ ซึ่งบริษัทระบุว่าแม้จะใช้ระบบคลาวด์ แต่ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินและข้อมูลจะถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้

จุดที่น่าสนใจคือ Apple พยายามควบคุมทุกอย่างตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ จนถึงระบบคลาวด์ ด้วยทีมออกแบบของตัวเอง โดยไม่มี "แผนสำรอง" เหมือนที่เคยทำเมื่อตัดสินใจย้าย Mac จาก Intel มาใช้ Apple Silicon ในปี 2020 ซึ่ง Srouji ยืนยันว่า "ตอนนั้นเราไม่มีแผน B เราทุ่มทุกอย่างลงไป" และตอนนี้ Apple ก็ใช้แนวคิดแบบเดียวกันกับ AI

แม้จะออกแบบชิปเอง แต่ Apple ยังพึ่งพาซอฟต์แวร์จากบริษัท EDA (Electronic Design Automation) อย่าง Synopsys และ Cadence ซึ่งทั้งสองบริษัทต่างเร่งพัฒนาเครื่องมือ AI เพื่อช่วยวิศวกรออกแบบชิปได้เร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น เช่น AgentEngineer ของ Synopsys ที่ใช้ AI ช่วยจัดการงานซ้ำซ้อนและกระบวนการซับซ้อนอัตโนมัติ

Apple จึงต้องการบุคลากรรูปแบบใหม่ ทั้งวิศวกรที่เชี่ยวชาญ AI และผู้ที่เข้าใจทั้งฮาร์ดแวร์และ Machine Learning ควบคู่กัน พร้อมเดินหน้าดีไซน์ชิปภายในองค์กรมากขึ้น ในขณะที่การผลิตยังคงพึ่งพันธมิตรอย่าง TSMC

แม้ Apple ยังไม่เปิดเผยว่าเมื่อใดจะเริ่มใช้ชิปที่ออกแบบด้วย AI ในผลิตภัณฑ์จริง แต่แน่นอนว่าทิศทางชัดเจน: บริษัทกำลังควบรวมทุกมิติของนวัตกรรมไว้ในมือ ตั้งแต่ซิลิคอน จนถึงซอฟต์แวร์ และโครงสร้างพื้นฐานของ AI.


เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม ทันทุกเรื่องฮิต


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์